ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คุณค่าทางโภชชนาการของมัลเบอร์รี่

มัลเบอร์รี่มีประโยชน์มากมายใช้กันมาแต่สมัยโบราณโดยเป็นผลไม้ที่ใช้บำรุงความงามกันมาช้านานในเรื่องของ การฟื้นฟูเรื่องความแห้งของส่วนต่างๆ ในร่างกายทั้งผิวหน้า ผิวกายที่แห้ง ปากแห้ง คอแห้ง ไปจนถึงตาแห้ง เรียกว่าครอบคลุมทุกส่วนจริงๆ เพราะว่ามัลเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินเอจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา และผิวพรรณให้สวยสดใสสุขภาพดี รับประทานเป็นประจำเส้นประสาทตาจะดี สายตาจึงแจ่มใส มองอะไรชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังมีฤทธิ์เป็นยาเย็นที่ช่วยขับลมร้อน และความร้อนรุ่มออกจากร่างกาย เช่น เมื่อมีไข้ขึ้นสูงรับประทานมัลเบอร์รี่แล้วจะช่วยลดไข้ลงได้บ้าง แถมยังช่วยบำรุงตับ ไตอีกด้วย ในวันทีอากาศร้อนเมื่อรู้สึกกระหายน้ำมัลเบอร์รี่จะช่วยให้ชุ่มคอ และเช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆ ที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย อีกทั้งยังช่วยให้ผมดกดำอีกด้วย ที่สำคัญยังบำรุงหัวใจให้แข็งแรง วันนี้เรามาดูคุณค่าทางโภชชนาการของมัลเบอร์รี่ ต่อ 100 กรัม กัน

คุณค่าทางโภชชนาการของมัลเบอร์รี่ ต่อ 100 กรัม

  • ให้พลังงาน 43 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 9.8 กรัม
  • น้ำตาล 8.1 กรัม
  • ใยอาหาร 1.7 กรัม
  • ไขมัน 0.39 กรัม
  • โปรตีน 1.44 กรัม
  • เถ้า 0.69 กรัม
  • วิตามินเอ 25 หน่วยสากล
  • เบต้าแคโรทีน 9 ไมโครกรัม
  • ลูทีน และ ซีแซนทีน 136 ไมโครกรัม
  • วิตามินบี1 0.029 มิลลิกรัม (3%)
  • วิตามินบี2 0.101 มิลลิกรัม (8%)
  • วิตามินบี3 0.62 มิลลิกรัม (4%)
  • วิตามินบี6 0.05 มิลลิกรัม (4%)
  • วิตามินบี9 6 ไมโครกรัม (2%)
  • วิตามินซี 36.4 มิลลิกรัม (44%)
  • วิตามินอี 0.87 มิลลิกรัม
  • วิตามินเค 7.8 ไมโครกรัม
  • โคลีน 12.3 มิลลิกรัม (3%)
  • แคลเซียม 39 มิลลิกรัม (4%)
  • ธาตุเหล็ก 1.85 มิลลิกรัม (14%)
  • แมกนีเซียม 18 มิลลิกรัม (5%)
  • ฟอสฟอรัส 38 มิลลิกรัม (5%)
  • โพแทสเซียม 194 มิลลิกรัม (4%)
  • โซเดียม 10 มิลลิกรัม (1%)
  • สังกะสี 0.12 มิลลิกรัม (1%)
  • ทองแดง 0.06 มิลลิกรัม
  • ซีลีเนียม 0.6 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สายพันธุ์มัลเบอร์รี่ (สายพันธุ์ของหม่อน) ในประเทศไทย

สำหรับสายพันธุ์มัลเบอร์รี่ (สายพันธุ์ของหม่อน) ในประเทศไทย มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งแบบลูกดก ลูกสั้น ลูกยาว ใบเล็ก ใบใหญ่ ลูกสีขาว สีแดง ตัวอย่างเช่น พันธุ์ที่มีใบขนาดใหญ่ก็เหมาะสำหรับนำเลี้ยงตัวหม่อน หนอนไหม ครับ สำหรับสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมอยู่ทั่วๆไป ให้ผลผลิตที่ดกและเหมาะกับสภาพบ้านเรามากที่สุดก็จะมีพวก เชียงใหม่60 กำแพงแสน 84 บุรีรัมย์ 60 นอกจากนี้ก็จะมีพวกสายพันธุ์ที่มีลูกยาวเป็นพวงยาวๆอีกครับเช่น หม่อนไต้หวัน, หม่อนหิมาลายัน

มัลเบอร์รี (Mulberry) คือ?

มัลเบอร์รี   หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกหม่อน ผลไม้พื้นบ้านแบบไทย ๆ สุดยอดแหล่งวิตามินซี มิตรแท้คนรักสุขภาพ โดย มัลเบอร์รี (Mulberry) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Morus nigra. L. เป็นหนึ่งในพืชตระกูลเบอร์รี โดยคนไทยมักจะรู้จักกันในชื่อของลูกหม่อน เนื่องจากเป็นผลของต้นหม่อนที่ใช้ในการเลี้ยงหนอนไหม อันเป็นจุดกำเนิดของอุตสาหกรรมผ้าไหม โดย แคลเซียม วิตามินเค ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ที่มีอยู่รวมกันในผลมัลเบอร์รีแบบจัดเต็ม ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกและป้องกันภาวะกระดูกพรุน อีกทั้งยังชะลอการเสื่อมสภาพของกระดูกตามวัยได้ ยิ่งถ้ารับประทานกับโยเกิร์ตละก็จะยิ่งได้แคลเซียมเพิ่มขึ้นอีกเพียบเลย   โดยลักษณะของต้นหม่อน เป็นพืชยืนต้นประเภทไม้พุ่มขนาดกลาง เนื้อไม้อ่อน เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อน ลำต้นมีลักษณะกลม ผิวเรียบ ไม่มีหนาม แต่มียางสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม ใบมีลักษณะขอบหยัก ปลายใบแหลม ฐานใบกลมหรือเป็นรูปหัวใจ ผิวใบสาก ก้านใบเรียวเล็ก ดอกเป็นรูปทรงกระบอก โดยจะออกตามซอกใบและปลายยอด ผลของหม่อน หรือลูกมัลเบอร์รี มีล...

สายพันธุ์มัลเบอร์รี(Mulberry Species)

มัลเบอร์รีมีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ได้แก่ มัลเบอร์รีสีขาว มัลเบอร์รีสีแดง และมัลเบอร์รีสีดำ มัลเบอร์รีถือเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ โดยมัลเบอร์รี 100 กรัมมีคุณค่าทางอาหารดังนี้           - พลังงาน 43 กิโลแคลอรี           - คาร์โบไฮเดรต 9.80 กรัม           - โปรตีน 1.44 กรัม           - ไขมัน 0.39 กรัม           - ไฟเบอร์ 1.7 กรัม           - โฟเลต 6 ไมโครกรัม           - วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) 0.620 มิลลิกรัม             - วิตามินบี 6 (ไพริด็อกซิน) 0.050 มิลลิกรัม           - วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0.101 มิลลิกรัม           - วิตามินเอ ...